ชื่อเจ้าของโครงการ ช่อผกา สอนทา

เบอร์โทร 0820875867

E-mail somsom156@gmail.com

รายละเอียดโครงการ

Step 1 ข้อมูลทั่วไป

รายละเอียดของผลงาน และความเป็นนวัตกรรม


        ระบบบริหารจัดการสต๊อกข้าวสารออนไลน์ บน Platform ชื่อ I’rice ซึ่งสามารถติดตาม สินค้าคงคลังในแบบ real time และ updated สต๊อกข้าวสารจากช่องทางการขายต่างๆ ได้พร้อมกัน เพื่อนำมาบริหารจัดการสต๊อกข้าวสาร และคำนวณการจัดส่งได้อย่างถูกต้อง โดยทำงานผ่านอุปกรณ์คือ “ถังข้าว IoT” (Internet of Thing) ที่ติดตั้ง Sensor ultrasonic เชื่อมต่อไปยังเครื่องมือ NETPIE ผ่าน API ไปยัง platform I’rice ระบบนี้เหมาะกับธุรกิจร้านอาหารที่มีหลายสาขา หรือร้านค้าที่ใช้ข้าวสารและต้องการ บริหารสต๊อกเพื่อความแม่นยำและลดความสูญเสีย ทั้งในด้านความสะดวกสบายและความคุ้มค่าของราคาข้าวสารพร้อมบริการจัดส่ง นอกจากนี้ระบบจะทำการนำข้อมูลที่ได้รับมาจากอุปกรณ์ IoT มาวิเคราะห์และแสดงผลเป็น Data Analysis เพื่อใช้ข้อมูลในส่วนนี้เป็น BigData ที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดกับหลายๆสิ่งได้ในอนาคต

UploadImage
ภาพที่ 1 แพตฟอร์ม I'rice ระบบบริหารจัดการสต๊อกข้าวสารออนไลน์

UploadImage
ภาพที่ 2 ถังข้าว IoT (Internet of Thing)


UploadImage

ภาพที่ 3 รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในการแข่งขัน STARTUP THAILAND League 2019 ระดับภูมิภาค ภาคเหนือ


UploadImage
 
ภาพที่ 4 รับรางวัลชนะเลิศโครงการ Panus Thailand LogTech Award 2019 โครงการฟ้นหาสตาร์ทอัพด้านธุรกิจโลจิสติกส์ (LogTech)
 
UploadImage

ภาพที่ 5 ภาพจากสื่อต่างๆ ทั้งในโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์  และสื่อออนไลน์

 

เอกสารอ้างอิง (ถ้ามี)

ลำดับ ไฟล์ ลิ้งค์
1 รายงาน i'rice.pdf

แผนธุรกิจที่คาดว่าจะดำเนินการในอนาคต

     1. ติดต่อกับเจ้าของแฟรนด์ไชส์ร้านอาหารต่างๆ เพื่อขยายพื้นที่เขตให้บริการได้อย่างรวดเร็ว
     2. ติดต่อกับเจ้าของกิจการร้านอาหารภายใน มหาวิทยาลัย และ โรงเรียน เพื่อเป็นต้นแบบแก่ร้านอาหาร
         ภายนอกเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือต่อการเสนอการติดตั้งบริการ
     3. สร้างแหล่งกระจายสินค้ารายย่อยตามเขตรอยต่อจังหวัดต่างๆ เพื่อสามารถ ทำให้สามารถรับข้าวสารจากชาวนา
         ที่สีโดยโรงสีชุมชน มารวมไว้ที่ส่วนกลางเพื่อทำการแพ็คและกระจายออกไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาโดยตรง


UploadImage

             การที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดของเราคือการเร่งสร้าง branding ให้มีความน่าเชื่อถือ โดยเริ่มจากแหล่งที่เป็นมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียน ที่มีโรงอาหาร เนื่องจากการที่เราเป็นนักศึกษาจะทำใ้หสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้ง่ายมากที่สุด และเมื่อมีฐานความน่าเชื่อถือของ branding มากพอ การจะขยายตัวต่อไปในพื้นที่ใกล้เคียงเราจะอ้างอิงจากแหล่งที่ใช้ระบบของเราและคำนวณความได้เปรียบให้ร้านอาหารที่ไปเสนอให้ดู และเห็นภาพได้ง่ายดาย และเมื่อขยายตัวได้ทั่วเขตสักเขตหนึ่ง จะทำให้การขยายตัวต่อไปทำได้ง่ายมาๆและจะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด 
            เมื่อพูดถึงการเกิดประโยชน์ในวงกว้าง เมื่อเราขยายตัวได้ทั่วพื้นที่ จะทำให้เรามี demand ที่มากพอและสม่ำเสมอในข้อมูลส่วนนี้เราจะสามารถแก้ปัญหาข้าวค้างสต๊อกให้ได้ทั้งโรงสีชุมชน โรงสีขนาดกลางและเล็ก ที่มีอยู่ทั่วประเทศรวมถึงจะเป็นการช่วยเหลือชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ เนื่องจากการขายข้าวสารจะได้กำไรเป็นเกือบเท่าตัวของการขายข้าวเปลือกแบบที่ผ่านๆมา และด้านกิจการร้านอาหารก็จะทำให้มีรายได้จากค้าขายเพิ่มมากขึ้น และสามารถทำเค้าสามารถลดราคาอาหารได้ ทำให้ผู้บริโภครายย่อยสามารถซื้ออาหารรับประทานได้ในราคาที่ถูกลง
จะเห็นได้ว่าจากที่กล่าวมา เราสามารถช่วยเหลือกิจการร้านอาหาร โรงสี และเกษตรกร ได้ตั้งแต่ต้นน้ำ และนอกจากนั้นสามารถนำข้อมูล demand ที่ได้มาทำเป็น big data เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ธุรกิจอื่นๆต่อไปได้อีกด้วย 

             เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวเปลือกตกต่ำ(ข้าวที่ชาวนานำไปขาย) โรงสีขนาดกลางและขนาดเล็กกำลังปิดตัว(อ้างอิง มติชนออนไลน์ วันที่ 25 กันยายน 2561) ชาวนามีแต่หนี้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่ในทางตรงกันข้าม คุณเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหาร หรือข้าวสารเพื่อบริโภคมากขึ้น ซึ่งเกิดจาก พ่อค้าคนกลาง “MIDDLE MAN” และเพื่อที่จะปัญหาเหล่านี้จึงเกิดเป็นทีเราขึ้นมาครับ
เรา Platform I’rice แพลตฟอร์มบริหารจัดการข้าวและส่งมอบข้าวคุณภาพสู่ร้านค้าทั่วไทย โดยมีถังข้าวIOTที่จะดูแลข้าว จากโรงสีจนถึงมือผู้บริโภค
             เรามุ่งหวังที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวนาพร้อมกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ในเรื่องของวัตถุดิบที่ขายได้ราคาถูกแต่ผ่านพ่อค้าคนกลางทำให้มีราคาสูง ส่งผลให้กำไรที่ได้จากการค้าขายไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในด้านต่างๆทั้งในส่วนของชาวนาและโรงสี เราจึงคิดค้นวิธีการบริหารจัดการลดราคาข้าวสาร ให้ถูกลง เพื่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นของชาวนารวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร และความสะดวกสบายในการซื้อ/ขาย
ปัจจุบัน ชาวนาเริ่มมีความตระหนักถึงราคาขายข้าวเปลือกที่ถูกกดราคามากขึ้นและผู้ประกอบการร้านอาหารบางส่วนมีความตระหนักถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องซื้อข้าวสารในราคาสูง ซึ่งพวกเขาทราบเป็นอย่างดีว่า นี่เกิดจากการเก็งกำไร” speculation”ของพ่อค้าคนกลาง ที่มีการส่งต่อ ข้าวสารอย่างหลายทอดกว่าจะออกสู่ตลาด ทำให้มีราคาขายที่สูง ถึงแม้จะทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างดี แต่ตัวชาวนาเองหรือผู้ประกอบการเองก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง 
            ในฐานะที่เรามีความรู้และความสามารถมากพอ ที่จะสามารถช่วยเหลือชาวนาและผู้ประกอบการร้านอาหารได้ จึงได้คิดค้นวิธีการบริหารจัดการลดราคาข้าวสาร ที่จะแก้ไขปัญหา ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ (Supply chain management) จนได้วิธีที่ตอบโจทย์มากที่สุด โดยเราจะลดกระบวนการในการขนส่ง(Zero waste logistic) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ข้าวสารที่ขายในปัจจุบันมีราคาที่สูง จึงเกิดเป็นเราขึ้นมา “I'rice”แพลตฟอร์มบริหารจัดการข้าวและส่งมอบข้าวคุณภาพสู่ร้านค้าทั่วไทย โดยมีถังข้าวIOTที่จะดูแลข้าว จากโรงสีจนถึงมือผู้บริโภค เราจะลดการส่งต่อข้าวสารของพ่อค้าคนกลาง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการจัดการ ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานได้แบบ Realtime

หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน

NIA , Panus assembly , Startup Thailand , Silpakorn University

Step 2 ข้อมูลโครงการ (ระหว่างการพัฒนา) ปัจจุบัน

โครงการ (ระหว่างการพัฒนา) ปัจจุบัน

โครงการอยู่ในระหว่างติดต่อผู้ประกอบการ

มีผลการทดสอบโครงการ

อยู่ในระหว่างทดสอบชิ้นงาน

ผลการทดสอบ

ครั้งที่ รายละเอียด รูปภาพ
1 ติดตั้ง sensor ในถังข้าว
2 วางถังข้าว IoT ที่ร้านกลุ่มทดลอง
3 ทดสอบการทำงาน บนแอปพลิเคชั่น
4 ทดสอบการทำงานบนแพตฟอร์ม
5 ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน ของถังIoT แพตฟอร์ม และการวิเคราะห์ข้อมูล

แผนธุรกิจ

Step 3 Biz Model Prototype

แนบภาพรูป

รายละเอียดข้อมูลการพัฒนาชิ้น

    
   I'rice Logistic นวัตกรรมบริการส่งมอบข้าวสารสู่ร้านอาหารทั่วไทยโดยรับ auto demand ผ่านระบบถังข้าว IoT
มีวิธีดำเนินงานโดยใช้ วงจร PDCA ดังต่อไปนี้ 
  UploadImage

1 วางแผน (Plan) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของระบบ เป็นไปตามเป้าหมาย
   1.1 จัดตั้งวัตถุประสงค์
   1.2 เขียนแบบร่างอย่างง่ายของการวางระบบ
   1.3 เตรียมอุปกรณ์ ภาษา และเครื่องมือในการผลิต
2 ปฏิบัติ (Do) เพื่อสร้างถังข้าว IoT , ระบบคำนวณทางด้านโลจิสติกส์ , ระบบ Data Analytics 
   2.1 ประกอบชิ้นส่วน IoT เข้ากับถังข้าว
   2.2 สร้างแพลตฟอร์มเพื่อแสดงผลค่าต่างๆ สำหรับใช้ในเชิง Data และเชิงพาณิชย์
   2.3 สร้างโปรแกรมคำนวณเพื่อความคุ้มค่าทางด้านโลจิสติกส์ 
   2.4 สร้างระบบการขนส่งแบบ milk run เพื่อวางแผนการจัดส่่งจริง
   2.5 เชื่อมต่อการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ไปแพลต์ฟอร์ม และระบบคำนวณทางด้านโลจิสติกส์ต่างๆ
   2.6 ทดลองระบบการทำงาน
3 ตรวจวัด (Check) เฝ้าติดตามกระบวนการทำงานเทียบกับวัตถุประสงค์ และข้อกำหนด
   3.1 ตรวจสอบความถูกต้องของระบบการทำงานทุกส่วน และแก้ไข
   3.2 ตรวจสอบค่าใช้จ่ายจริงจากร้านอาหาร(ค่าไฟ) จากการติดตั้งอุปกรณ์ IoT ให้กับถังข้าว
   3.3 จ้างบริษัท Hacker เพื่อตรวจเช็คความปลอดภัยของระบบ
   3.4 รับ Feed back จากร้านอาหารที่ทดลองติดตั้งระบบ

4 ปรับปรุง (Act)
   4.1 ประเมินผลงานแล้วนำข้อบกพร่องมาปรับปรุงระบบ และ อุปกรณ์ IoT
   4.2 ศึกษา เก็บข้อมูล เพื่อนำมาพัฒนาให้ความสมบูรณ์ของระบบมากที่สุด

 

หน่วยงานที่ร่วมสนับสนุน

NIA , Panus assembly , Startup Thailand , Silpakorn University

ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ

ระยะเวลาในการพัฒนา

6 เดือน

Step 4 การดำเนินงานต่อไปของโครงการ

ครั้งที่ การดำเนินงาน
1 R&D พัฒนาแพลตฟอร์มและถังข้าว
2 จดทะเบียนบริษัท
3 หา Supply ที่เป็นโรงสี
4 ส่งพนักงานขายไปคุยกับร้านอาหาร
5 วางระบบงาน
6 พัฒนา บุคลากร
7 หาแหล่งเงินทุน

Step 5 สิทธิบัตร

ผลิตชิ้นงานสู่ตลาดวันที่

17 กันยายน 2562

จดสิทธิบัตร / อนุสิทธิบัตร เลขที่

ขายชิ้นงานแล้ว / จำนวน

จดบริษัท

Step 6 ผลงานปัจจุบัน

ปัจจุบันธุรกิจเป็งนอย่างไร

อยู่ในระหว่างการพัฒนานวัตกรรมสู่เชิงพานิชย์โดยปัจจุบันเรามีการทำดีงต่อไปนี้ 


ปัจจุบันมี Supply ที่จะเป็นร้านในการส่งข้าวสารให้ก่อนในช่วงการทดลองระบบ

UploadImage
ภาพที่ 6 ร้านค้า Supply ข้าวสารของเราในช่วงทดลองระบบ


ร้านอาหารที่ทดลองใช้ระบบของเราและมีการส่งข้าวจริง
เนื่องจากยังเป็นช่วงการทดลองเราจึงหาร้านที่มีการสั่งข้าวยังไม่มากเนื่องจากเราสามารถดูแลไหวและเป็นการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าก่อนที่จะขยายออกไป และดูการทำงานของเราเองว่าขาดตกหรือควรพัฒนาตรงไหนเพื่อเพื่อพร้อมสู่เชิงพานิชย์ 


UploadImage
ภาพที่ 7 ร้านป้าแดงอาหารตามสั่ง ที่ทดลองเป็นร้านตัวอย่างในการเทสระบบและส่งข้าว

UploadImage
ภาพที่ 8 ร้านซูชิอีสาน ที่ทดลองเป็นร้านตัวอย่างในการเทสระบบและส่งข้าว

เรามีการพัฒนาระบบ Data analysis ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในธุรกิจและยังสามารถเปิดให้คนภายนอกเข้ามาดูได้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เรามีการหา Partner ในการหารถขนส่งข้าวให้กับเรา คือบริษัท Shippop โดยเราได้ทำการคุยกับ CEO Shippop และตกลงเป็น Partner กัน
UploadImage
ภาพที่ 9 ไปคุยตกลงเป็น Partner กับบริษัทขนส่ง Shippop
 

ปัญหาที่พบ

จากการสำรวจร้านอาหารมากมายพบว่า
เราทำถังข้าว IoT แต่รูปแบบถังข้าวที่มีอยู่ในตลาดยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเรา
การจัดวางของแต่ละร้านมีพื้นที่การจัดเก็บที่ไม่เหมือนกัน เช่น
- วางใต้โต๊ะ
- วางบนโต๊ะ
-ใส่กระสอบไม่มีถังจัดเก็บ
- ซื้อมาพอดีใช้ต่อวัน
การที่จะออกแบบมาแบบเดียวจะไม่สามารถใช้กับทุกร้านได้เพราะพื้นที่แต่ละร้านมีพื้นที่การใช้สอยอย่างจำกัด


UploadImage

สิ่งที่ต้องการพัฒนาต่อ

จากปัญหาที่พบสิ่งที่จะต้องพัฒนาต่อคือ
​เราจึงจำเป็นจะต้องออกแบบถังข้าวใหม่โดยการผลิต แบบ เป็นชิ้นส่วนที่สามารถ ประกอบได้เหมือน LEGO โดยข้อต่อทุกชิ้นจะมีขอบยางเพื่อให้มีความแน่นหนาและปิดมิดชิดกันน้ำและความชื่นเข้า โดยจะสามารถประกอบได้ตามขนาดของแต่ละร้านที่มีความต้องการไม่เหมือนกันได้
โดยจะมีส่วนประกอบต่างๆเช่น
-ตัวถัง
-ฝาเปิดส่วนหัวเพื่อเปิดตักข้าว
-ฝาเปิดแบบกลางตัวถัง สำหรับการต่อแบบสูงและไม่สามารถเปิดจากด้านบนสุดได้
-ก้นถัง
และต้องสั่งผลิตจำนวนมากเพื่อให้คุ้มในการสั่งทำ เราจึงขาดแหล่งเงินทุนที่จะมาช่วยเหลือในจุดนี้ในส่วนของการผลิตถังข้าว

Thailand Innovation Awards 2019

I'rice logistech นวัตกรรมการบริการส่งมอบข้าวสารสู่ร้านค้าทั่วไทยโดยรับ auto demand ผ่านระบบถังข้าว IoT

นวัตกรรมการบริการส่งมอบข้าวสารสู่ร้านค้าทั่วไทย และระบบถังข้าว IoT

ข้อเสนอแนะ

Validation code:

 
© 2018 NIA. All Rights Reserved